วัสดุปลูก แนะนำเครื่องปลูกที่ใช้ในการขยายพันธุ์และปลูกพืช

วัสดุปลูก ใช้ในด้านการขยายพันธุ์พืชโดยแนวทางติดตาต่อกิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายพันธุ์ไม้ยืนต้น ซึ่งอยากได้ตัวการที่มีระบบระเบียบรากที่หยั่งลึก ที่สามารถจะทนลมพายุ รวมทั้งทนแล้ง ได้ดีมากว่าการขยายพันธุ์โดยแนวทางอื่น ดังเช่นว่า การทำหมันกิ่ง หรือการตัดชำกิ่ง ฯลฯ ด้วยเหตุดังกล่าว ต้นที่ได้จากการขยายพันธุ์จากเม็ดก็เลยสมควร ที่จะใช้ฯลฯโคนสำหรับนำไปติดตา และก็ต่อกิ่ง แต่ว่าเนื่องจากว่าการขยายพันธุ์โดยใช้เม็ด ต้นพืชที่ได้บางทีอาจกลายพันธุ์ได้ ก็เลยจะต้องคัดเลือกต้นที่มีลักษณะไม่ตรงตามชนิดที่อยากออก เพื่อได้ตัวการที่มีลักษณะตรงตามประเภทสูงที่สุดไว้ เพื่อแพร่พันธุ์ถัดไป

ตอนนี้หลายท่านเริ่มหันมาปลูกต้นไม้กันมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการมีเวลาเยอะขึ้นจำเป็นต้องกักบริเวณอยู่ข้างในห้องพักหรือบ้านเป็นระยะเวลานานๆในตอนเหตุการณ์อย่างนี้ การปลูกต้นไม้ก็เลยบางทีอาจเป็นกิจกรรมที่น่าดึงดูด แต่ว่านอกเหนือจากการปลูกต้นไม้แบบทั่วๆไปที่ betflixdc พวกเรามองเห็นอยู่ทั่วไแล้ววันนี้ทาง Kaset today ก็ต้องการจะมาชี้แนะให้ทุกคนทดลองหันมาปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินกัน ฟังมาถึงที่ตรงนี้คนไม่ใช่น้อยก็อาจสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร จำเป็นต้องบออก่อนว่าการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินคือการใช้อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงกับดินเป็นมีส่วนประกอบธาตุ สารอาหารแล้วก็มีคุณลักษณะสำหรับในการเก็บกักน้ำ การคายน้ำหรือความชุ่มชื้นที่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการเจริญวัยของต้นไม้ โดยจะมีอีกทั้งอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นจากอนินทรีย์สาร อินทรีย์สารและก็อุปกรณ์ที่เกิดขึ้นจากการสังเคราะห์ เป็นต้นว่า แกลบ ขี้เลื่อย พีโคลนตมอส ดินประเทศญี่ปุ่น เม็ดดินเผาต่างๆฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์ที่กล่าวมาส่วนใดส่วนหนึ่งนั้นมีคุณลักษณะที่เหมาะกับ

Table of Contents

วัสดุปลูก การเพาะปลูกอีกทั้งต้นกล้าแล้วก็พันธุ์พืชทั่วๆไป

จะมองเห็นได้ว่าวัสดุปลูกที่ดีจำนวนมากจะมีคุณลักษณะที่คล้ายคลึงกันเป็นระบายน้ำได้ดิบได้ดี ซับน้ำ มีธาตุอาหาร การเลือกใช้สิ่งของปลูกนั้นจำเป็นที่จะต้องเล่าเรียนพืชที่ปลูกด้วย เพื่อกำเนิดความเหมาะสมสำหรับการผสมหรือใช้งานแม้ว่าอุปกรณ์ปลูกจะมีธาตุอาหารที่จำเป็นจะต้องต่อการเติบโตของพืช แม้กระนั้นการใช้สิ่งของปลูกสิ่งเดียวไม่พอต่อการออกดอกผลิดอกออกผล รวมทั้งการออกสีสันตามลักษณะประเภทของพืช เนื่องจากบางโอกาสพืชจำเป็นต้องใช้ธาตุอาหารที่ไม่เหมือนกันตามระยะเวลาของพืช พวกเราจำเป็นที่จะต้องให้ปุ๋ยหรืออาหารเสริมของพืชเพื่อชดเชยด้วยด้วยเหมือนกัน

หินภูเขาไฟ (Pumice)

ลักษณะราวกับหิน มีรูพรุน น้ำหนักค่อย ระบายอากาศเจริญ ช่วยคุ้มครองไม่ให้ดินจับตัวกันมีลักษณะที่กลาย วัสดุปลูก เป็นก้อน ทำให้อากาศเวียนในภาชนะปลูก ที่สำคัญในหินภูเขาไฟยังมีธาตุสำคัญอยู่ เป็นต้นว่า ซิลิกา แคลเซียม แล้วก็แมกนีเซียม ซึ่งธาตุพวกนี้ช่วยซึมซับสารอาหารที่สำคัญต่อการเติบโตของพืชได้ดิบได้ดี แล้วก็ยังช่วยลดความเป็นกรดในดินได้อีกด้วย หินภูเขาไฟมีหลายขนาด คนนิยมนำขนาดเล็กเบอร์ 1 มาใช้ผสมดินปลูกต้นไม้ที่อยากความร่วนซุย ระบายน้ำเจริญ หรือขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยราวๆเบอร์ 2 หรือ 3 จะใช้รองตูดกระถางดอกไม้ ช่วยทำให้น้ำไม่ขังอยู่ในภาชนะปลูกซึ่งเป็นต้นเหตุของรากเน่าด้วย นอกจากนั้นยังเอามาโรยหน้ากระถางเพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้หน้าดินกระจุยกระจายเวลารดน้ำ ทั้งยังช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้อยู่ด้านในกระถางพืชที่เหมาะสมกับการใช้หินภูเขาไฟปลูกมีหลากหลายประเภท แต่ว่าที่ได้รับความนิยมสุดๆก็คงเป็นตะบองเพชรนั่นแหละนะครับ

ถัดมาใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำบีบน้ำให้หมาด ปรากฏว่าระยะต้นเม็ดผลิออกเจริญ แม้กระนั้นอีกเลวระยะหนึ่งต้นอ่อนกลับเน่าตาย เมื่อให้แต้มจะได้เพียงแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการศึกษาค้นคว้าถัดไปผมลงทุนซื้ออุปกรณ์เพาะที่เรียกว่า พีทมอส ใส่ถุงจากร้านขายของสิ่งของเกษตร ขนาดใส่ 5 ลิตร ราคาราว 50-75 บาท ต่อถุง มาเพาะเม็ดพริก และก็เม็ดพืชดอกไม้ประดับอื่นๆอุปกรณ์เพาะดังที่กล่าวถึงแล้วมีลักษณะร่วนซุย และก็สะอาด ให้ฉีกถุงใส่ เทสิ่งของลงใส่ในกะละมัง ผสมรวมทั้งเกลี่ยให้เรียบ ปลดปล่อยแก๊สบางจำพวกที่เหลืออยู่ในถุงระเหยออกไป แล้วใส่ไว้ภายในภาชนะที่มีรูระบายน้ำต่ำจากขอบบางส่วน รดน้ำเพียงพอเปียก วางเรียงเมล็ดพืชเป็นแนว ให้แต่ละเม็ดห่างกันบางส่วนแล้วก็กลบเม็ดด้วยอุปกรณ์เดียวกัน ใส่ลงในถุงพลาสติกทำเป็นตู้อบ ผูกปากถุงให้แน่น เก็บในที่ร่ม ข้างใน 5-7 วัน เม็ดจะแตกออกต้นอ่อนออกมาให้มองเห็น แล้วจึงพูดถุงออก เลี้ยงต้นกล้าให้บริบูรณ์

ให้สเปรย์น้ำให้ทั่วก้อนฟองน้ำก่อนย้ายลงแปลงปลูก และก็ควรที่จะเลือกย้ายในตอนเย็น เพราะว่าตอนเย็นจนกระทั่งเย็น พืชจะปรับพฤติกรรมได้ดีมากยิ่งกว่าตอนกลางวัน รวมทั้งลดการเสี่ยงที่ต้นเกล้าจะเฉาตายจากแดดได้
ให้เลือกต้นกล้าที่บริบูรณ์และก็มีขนาดต้นใกล้เคียงกันลงแปลงปลูก
นำต้นกล้าใส่กระถางปลูก (ใส่ต้นกล้าจากข้างล่างกระถางเพื่อปกป้องการพับหักงอของรากพืชจากการใส่ฟองน้ำจากข้างบนกระถาง) โดยให้ตูดของฟองน้ำโผล่ออกมาจากตูดกระถาง
นำต้นกล้าที่สวมกระถางปลูกแล้วไปใส่ไว้ในช่องปลูกของรางปลูก โดยสังเกตุว่าตูดของฟองน้ำสัมผัสกับน้ำในรางปลูกหรือเปล่า ถ้ายังไม่สัมผัสก็ให้ขยับฟองน้ำลงมาเพื่อตูดของฟองน้ำแตะต้องกับน้ำในรางปลูก (ให้น้ำในรางปลูกสัมผัสกับฟองน้ำราว 2 – 3 มม.)

ต้นกล้ามะเขือเทศอายุ 224 ชั่วโมง พร้อมย้ายลงกระถางรวมทั้งแปลงปลูก ผักเชื้อสายพริกรวมทั้งมะเขือ วัสดุปลูก ควรจะย้ายปลูกเมื่อต้นกล้าแก่ 21-30 วัน ผักรับประทานผลเชื้อสายแตง ควรจะย้ายปลูกเมื่อต้นกล้าแก่ 12-14 วันการเพาะเม็ดทำเป็นหลายแนวทาง บางทีอาจโรยหรือหยอดเม็ดลงในแปลงปลูกโดยตรง หรือเพาะเม็ดในถาดเพาะแล้วย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกก็ได้ อย่างเช่น ผักที่แก่สั้นแล้วก็โตเร็วอย่างผักบุ้ง คะน้า ผักชี ผักกาดต่างๆสามารถโรยหรือหว่านเม็ดลงในแปลงปลูกได้เลย เมื่อต้นกล้าผลิออกแล้วก็ค่อยถอนแยกต้นที่แทรกกันแน่นออก ส่วนแตงร้าน บวบ น้ำเต้า และก็ถั่วต่างๆซึ่งเม็ดมีขนาดใหญ่ แล้วก็ต้นกล้ายืดยาวเร็ว นิยมหยอดเม็ดเพาะในแปลงปลูกเหมือนกัน

พืชดอกไม้ประดับที่นิยมนำมาปลูกกันโดยมากเป็นพืชที่แก่สั้น มีตอนการเติบโตทางต้นเพียงแต่ 30-60 วัน ก็เลยจำเป็นที่จะต้องปลูกลงในดินหรือสิ่งของปลูกที่สมบูรณ์บริบูรณ์ โดยยิ่งไปกว่านั้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ในกระถาง ซึ่งรากไม่มีจังหวะชอนไชออกไปพบธาตุอาหารรวมทั้งน้ำจากที่อื่น อุปกรณ์ปลูก
การปรุง อุปกรณ์ปลูก ให้สมควรก็เลยเป็นอย่างแรกที่สามารถจะช่วยให้พืชดอกไม้ประดับเติบโตได้สวยดี พร้อมมีดอกให้ชื่นชอบสมใจอยากอยู่เป็นประจำ แล้วทำยังไงก็เลยจะปรุงสิ่งของปลูกให้ไม้ประดับได้ชิมรสอร่อย

หลายๆบทความก่อนหน้าที่ผ่านมา พวกเราได้เอ๋ยถึงสิ่งของปลูกแบบอ้าๆไปบ้างแล้ว ทั้งยังดิน กาบมะพร้าว หรือใบก้ามปู ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สิ่งของปลูกสำหรับไม้ใบมิได้มีเพียงเท่านี้ แต่ว่ายังมีอีกหลากหลายชนิด แต่ละจำพวกล้วนมีคุณลักษณะที่ต่างกัน บางจำพวกเมื่อเอามาผสมกันแล้ว จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับต้นไม้ได้มากขึ้นด้วย วันนี้พวกเราก็เลยต้องการให้ทดลองอ่านแล้วก็เรียนมองว่า ต้นไม้ที่บ้านของทุกๆคนเหมาะสมกับอุปกรณ์ปลูกจำพวกไหนกันบ้าง

อุปกรณ์ยอดฮิตที่ใช้ปลูกต้นไม้ได้งามขึ้น

ขุยมะพร้าว (Coconut dust) เป็นส่วนของ pith หรือเยื่อส่วนในสุดของลำต้นที่มีคุณลักษณะสำหรับในการระบายน้ำแล้วก็อากาศ ทำให้เหมาะสำหรับนำมาปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินหรือเพาะต้นกล้า นอกนั้นยังสามารถนำขุยมะพร้าวไปผสมกับดิน ปุ๋ยธรรมชาติ กากน้ำตาลหรือองค์ประกอบอื่นๆเพื่อนำไปทำเป็นปุ๋ยหรือทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้กับดินเพาะปลูกได้อีกด้วย

ใช้ในด้านการปลูกผักและก็พืชดอกล้มลุกโดยทั่วไปพืชอายุสั้นจำเป็นจะต้องใช้ส่วนเพิ่มเติมประเภทที่รุ่งโรจน์ได้เร็ว แล้วก็ราคาแพงถูกด้วย ในกรณีแบบนี้ การใช้เม็ดปลูกหรือเพาะพันธุ์ ก็เลยเป็นการลงทุนที่ต่ำที่สุด และก็ทำเป็นสบายเร็ว ด้วยเหตุนี้การใช้เม็ดแพร่พันธุ์ หรือปลูกพืชพวกนี้ ก็เลยเป็นแนวทางเดียว ที่จะทำเป็น ยกตัวอย่างเช่น การปลูกผักบุ้ง คะน้า มะเขือเทศแอสเทอร์ และก็ดอกบานชื่น ฯลฯ

พีโคลนอส (Peat Moss)

พีโคลนตมอสมีเหตุมาจากคำว่า Peat ซึ่งก็คือซากพืชหรือซากสัตว์ที่ทับถมกันมานานนับเป็นเวลาหลายปี วัสดุปลูก รวมทั้งคำว่า Moss หรือพืชพวกมอส มีอยู่มากมายสายพันธุ์ เมื่อเอามารวมกันก็เลยซึ่งก็คือวัตถุที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมสลายของมอสสายประเภทหนึ่งเป็นสแฟกนัม (Sphagnum sp.) พวกเราพบบ่อยพีโคลนอสอยู่ด้านล่างของสแฟกนัมมอสที่ยังมีชีวิต ใช้เวลาสะสมรวมทั้งเสื่อมสภาพนานหลายร้อยปี รวมทั้งชอบเติบโตก้าวหน้าในพื้นที่อากาศหนาวเย็น ก็เลยจำเป็นต้องนำเข้ามาขายในประเทศไทย ทำให้แพงสูงขึ้นมากยิ่งกว่าดินทั่วๆไป พีโคลนตมอสเป็นสารอินทรีย์ที่มีความโปร่งสบาย สามารถเก็บความเปียกชื้นเจริญ อุดมไปด้วยธาตุ และก็ยังไม่มีเชื้อโรคที่มักติดมาพร้อมกับดิน คนนิยมประยุกต์ใช้เพาะเม็ด เพาะกล้า หรือผสมกับสิ่งของปลูกจำพวกอื่นๆในประเทศไทยนำเข้าพีโคลนอสหลายแบรนด์ ผมเคยทดลองใช้ Super Peat ที่ใส่ธาตุอาหารเพิ่มอีกลงไปด้วย ราคาแพงกว่าพีโคลนอสทั่วๆไป แม้กระนั้นก็แลกเปลี่ยนมาพร้อมกับจำนวนสารอาหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พีโคลนตมอสขนาด 5 ลิตร 1 ถุง พอดิบพอดีกับถอดเพาะเม็ด 100 หลุม

แนวทางแรก เมื่อต้นอ่อนเติบโตมีใบจริงชุดลำดับที่สอง ให้ถ่ายลงถุงเพาะชำสีดำ ที่สิ่งของเพาะมีส่วนผสมจากดินร่วนซุย 3 ส่วน ดินก้ามปู 1 ส่วน และก็ปุ๋ยมูลสัตว์เก่า 1 ส่วน คลุกให้เข้ากัน เลี้ยงไว้ให้แข็งแรงบริบูรณ์ ก็เลยนำลงปลูกภายในแปลง ทำให้ช่องทางรอดชีวิตสูง รวมทั้งอีกแนวทางหนึ่ง บำรุงต้นกล้าให้แข็งแรง เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ก็เลยย้ายลงปลูกภายในแปลงแนวทางลักษณะนี้ระยะต้นจะต้องพลางแสงสว่างให้ เพื่อลดการสิ้นไปจากการเผาไหม้ที่เกิดจากแสงแดด หลังจากนั้นให้ให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 โรยบางๆเดือนละ 1 ครั้ง แล้วรดน้ำตาม หมั่นค

สำหรับผักที่รับประทานส่วนรากหรือหัวใต้ดินอย่างผักกาดหัว และก็แครอต

ไม่นิยมย้ายกล้าเพราะว่าอาจจะเป็นผลให้รากขาด ทำให้หัวผักกาดหรือแครอตไม่สมบูรณ์ ส่วนผักที่ใช้เวลานานกว่าจะโตจนถึงเก็บผลประโยชน์อย่างพริก มะเขือ มะเขือเทศ นิยมเพาะต้นกล้าก่อน แล้วย้ายปลูกเอาไว้ภายในภาชนะหรือแปลงปลูกจริง ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าการเติบโตของผักที่ปรารถนาปลูกก่อน แล้วเลือกใช้แนวทางเพาะเม็ดที่สมควรถ้าหากสิ่งของปลูกมีธาตุอาหารน้อย ไม่นานพืชจะออกอาการขาดธาตุอาหาร ต้นแคระแกร็น แล้วก็ตายท้ายที่สุด

หากอุปกรณ์ปลูกมีธาตุอาหารมากเกินความจำเป็น ต้นจะเจริญวัยมากมาย มีลักษณะอาการเฝือใบไหมมีดอก วัสดุปลูก ขนาดต้นมิได้รูปร่างกับกระถางถ้าเกิดอุปกรณ์ปลูกมีสารอินทรีย์เยอะเกินไป บางทีอาจซับน้ำไว้มากมายจนกระทั่งทำให้ต้นเน่าตายได้ถ้าหากสิ่งของปลูกเอาไว้ภายในกระถางแน่นเหลือเกิน ระบายน้ำได้ไม่ดี น้ำจะขังท่วมอยู่ที่ปากกระถาง ทำให้อากาศไม่ระบาย ต้นไม่เติบโตซักเท่าไหร่ดินถุงที่ขายตามร้านต้นไม้หรือที่พวกเรามักมองเห็นข้างถนน 7 ถุง 100.- เป็นดินที่ผสมมาแล้ว สามารถนำไปปลูกต้นไม้ได้เลย แต่ว่าสำหรับต้นไม้บางต้นบางทีอาจอยากได้สารอาหารมากมายเป็นพิเศษ ก็เลยจำเป็นต้องผสมสิ่งของปลูกบางจำพวกเข้าไปด้วย ดังเช่น เพอร์ไลต์ เวอร์มิคูไลต์ ใบก้ามปู หรือถ้าหากอยากได้ความร่วนซุยก็สามารถผสมหินภูเขาไฟเข้าไปได้

เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) เป็นแร่ดินที่ถูกเจอในรูปของ aluminum iron-magnesium silicate มีลักษณะคล้ายกับกรุ๊ปแร่ไมกา (MICA) ที่จะมี Fe,Mg,Ca,K,Na,อิออนของตัวอื่นเป็นส่วนประกอบรวมทั้งโมเลกุลของน้ำ สำหรับเพื่อการนำเวอร์มิคูไลท์มาใช้เพาะปลูกจะมีอยู่ 2 ขนาดเป็น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ¼ นิ้ว เป็นแร่ดินที่มีขนาดเล็กมากมายก็เลยประยุกต์ใช้ในการเพาะต้นกล้า มีธาตุอาหารสูงอย่างธาตุฟอสฟอรัสแล้วก็โพแทสเซีม 5-8% แล้วก็แมกนีเซียม 9-12% รวมทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น 20 เท่า เมื่อนำไปอบที่ความร้อน 100 องศาเซลเซียสก็เลยเหมาะกับการปลูกพืชที่พ้นระยะต้นกล้ามาแล้ว ภายหลังที่เวอร์มิคูไลท์เริ่มพรุนหรือกำลังจะหมดการใช้แรงงานสามารถนำไปผสมกับเพอร์ไลท์เพื่อนำมาใช้ปลูกอีกได้